Posted by: chaosinbooks | 18/08/2010

วิกฤติคน


                                              วิกฤติคน

          คงจะต้องลำบากมากกว่านี้                   ทางข้างหน้ายังมีแต่ขวากหนาม

          ทั้งหุบเขาห้วงเหวอันเลวทราม              ล้วนเป็นความหายนะต้องเผชิญ

          อุปสรรคทุกทิศทางปิดขวางกั้น             เราต้องบั่นบุกไปไม่ขัดเขิน

          ถือธงธรรมนำใจให้ก้าวเดิน                พร้อมประเมินความแข็งแกร่งแห่งพลัง

          ทุกสิ่งล้วนแปรผลจากต้นเหตุ              จึงประเทศวิกฤติชวนผิดหวัง

          นาวารัฐซัดส่ายมาหลายครั้ง              ไม่เคยเข้าเทียบฝั่งอันแสนงาม

         เพราะการเมืองแย่งอำนาจชาติชำรุด     กลายเป็นจุดพลิกผันน่าหวั่นหวาม

         เรามีประชาธิปไตยแค่ในนาม            สวนกับความเป็นจริงอย่างแจ้งชัด

        ดูแล้วเวทนาประชาชน                    อยู่ท่ามกลางความสับสนจนแกว่งกวัด

        การโกงกินพ่นพิษร้ายทำลายรัฐ          มันฟอนฟัดสังคมแทบจมมิด                      

       หรือเป็นเพราะการศึกษาเราไร้ผล        ไม่ได้สร้างปัญญาคนให้ไพจิตร

       ไม่ได้วางเป้าหมายให้ถูกทิศ               ทุกอย่างจึงเบี้ยวบิดและผิดเพี้ยน

        การศึกษาพิกลผลดอกร่วง               คุณธรรมทั้งปวงก็แปรเปลี่ยน                 

       ปริญญาแค่กระดาษเนื้อใสเนียน         บอกให้รู้ว่าร่ำเรียนอะไรมา

       บางคนเติบโตใหญ่ในชีวิต                ความสำนึกต่ำติดแค่ยอดหญ้า

       เป็นผู้แทนเถื่อนถ่อยด้อยราคา         บ้างคอยคิดแสวงหาประโยชน์ตน

      เป็นข้าราชการรับใช้งานของชาติ       แต่หัวใจเป็นทาสน่าหมองหม่น

      หน้าที่หลักคือรับใช้ประชาชน           แต่ไม่สน…กลับไปรับใช้เงิน

      วิกฤติคนคือวิกฤติการศึกษา             ไม่ใช่เป็นปัญหาเพียงผิวเผิน

     คนคิดชั่วชาติช้ำไม่จำเริญ                 ยิ่งก้าวเดินยิ่งหลงลงปลักตม

     คงจะต้องลำบากมากกว่านี้              เพราะยังมีปัญหาบ่าทับถม                      

     ต้องช่วยกันแก้ไขคลายเงื่อนปม         ปัญญาคนปัญญาคมคืออาวุธ

    การศึกษานำพาชาติให้แกล้วแกร่ง        เป็นพลังทิ่มแทงอันสูงสุด

    เป็นประทีปเรืองรองของมนุษย์           เราต้องจุดไฟปัญญาสร้างค่าคน                                                                         

                                                                      เชาว์ศิลป์  จินดาละออง

            วิทยาจารย์: เมษายน 2553


ใส่ความเห็น

หมวดหมู่